ระยะหลังๆ มานี้เจอพ่อแม่ ผู้ปกครองรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเองมากมาพูดคุยด้วยบ่อยๆ ซึ่งเด็กรุ่นใหม่เหล่านี้มักจะมีฐานะดี หน้าที่การงานมั่นคงและแน่นอนว่าเขาย่อมมีทางเลือกในการส่งลูกเรียนด้วยความพร้อมสูงสุดจึงหนีไม่พ้นโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังทั้งหลาย
ด้วยหน้าที่การงานของผมมักจะทำให้เขาเข้าใจผิดว่ามีรายได้เยอะ พวกเขาจึงมักประหลาดใจที่รู้ว่าผมให้ลูกเรียนโรงเรียนรัฐใกล้บ้าน ซึ่งแม้จะเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพพอสมควรแต่พวกเขาก็มักจะถามว่า "ทำไมไม่ให้ลูกเรียนอินเตอร์?" (เหมือนเขา) พร้อมสาธยายข้อดีของการเรียนอินเตอร์มากมาย ทั้งเรื่องภาษา คอนเน็คชั่น เด็กกล้าคิดกล้าทำ คิดนอกกรอบ และโอกาสเรียนต่อที่ไปไกลถึง Havard, MIT, Yale ฯลฯ
ลำพังแค่ข้อดีเหล่านี้ ผมรู้อยู่แล้วครับ แต่ส่วนใหญ่ที่คุยมักจะดูแคลนโรงเรียนธรรมดาว่าไม่ได้ภาษา เรียนแต่ในกรอบ ไม่รู้จักคิด วันๆ เอาแต่เรียนพิเศษไม่เหมือนลูกเขาที่กิจกรรมมากมายทั้งตีกอล์ฟ สควอช ไปต่างประเทศ ฯลฯ แถมโรงเรียนธรรมดาเรียนไปก็ต้องไปเจอการแข่งขันสูงๆ ต้องไปแห่สอบเข้ามหาวิทยาลัย แถมโลกแคบเพราะได้เรียนแต่ในประเทศ ฯลฯ
ข้อเสียเหล่านี้ผมก็รู้แล้วเหมือนกัน แต่ทางเลือกคนเรามีไม่เหมือนกันนี่ครับ...
ผู้ปกครองโรงเรียนอินเตอร์หลายๆ คนก็น่ารักครับ คุยแล้วเข้าใจว่าฐานะแต่ละคนไม่เท่ากัน และทางเลือกของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่กับผู้ปกครองรุ่นใหม่หลายคนที่ชอบเปรียบเทียบแบบที่ว่ามานี้รู้สึกจะมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนผมเลี่ยงที่จะไม่คุยเรื่องลูกแล้วในงานสังคม
บางงานที่พาลูกไปด้วยก็พยายามคะยั้นคะยอให้ลูกเราคุยกับลูกเขาเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่อ...?
ผมรู้ว่าทางเลือกของลูกผมในอนาคตของไม่กว้างเท่าลูกของเขา แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่ตัวผมและคนไทยส่วนมากรับรู้ดีและต้องยอมรับมัน ทำให้เราต้องขวนขวายหาทางพัฒนาลูกเพิ่มเติม ทั้งการเรียนภาษานอกหลักสูตร ใครที่ลูกเก่งหน่อยก็หาทางสอบชิงทุน
ที่แน่ๆ เราก็คงต้องพยายามให้มากที่สุดเพื่ออนาคตของลูกเรา แม้จะต้องเหนื่อยกว่า แต่ก็เป็นหน้าที่ที่เราเต็มใจทำ จริงไหมครับ...
ถ้าเลือกได้ ก็คงเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดให้ลูกแน่ๆ แต่ทุกคนมีทางเลือกไม่เหมือนกัน อย่าไปดูถูกโรงเรียนอื่นเลย...
ด้วยหน้าที่การงานของผมมักจะทำให้เขาเข้าใจผิดว่ามีรายได้เยอะ พวกเขาจึงมักประหลาดใจที่รู้ว่าผมให้ลูกเรียนโรงเรียนรัฐใกล้บ้าน ซึ่งแม้จะเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพพอสมควรแต่พวกเขาก็มักจะถามว่า "ทำไมไม่ให้ลูกเรียนอินเตอร์?" (เหมือนเขา) พร้อมสาธยายข้อดีของการเรียนอินเตอร์มากมาย ทั้งเรื่องภาษา คอนเน็คชั่น เด็กกล้าคิดกล้าทำ คิดนอกกรอบ และโอกาสเรียนต่อที่ไปไกลถึง Havard, MIT, Yale ฯลฯ
ลำพังแค่ข้อดีเหล่านี้ ผมรู้อยู่แล้วครับ แต่ส่วนใหญ่ที่คุยมักจะดูแคลนโรงเรียนธรรมดาว่าไม่ได้ภาษา เรียนแต่ในกรอบ ไม่รู้จักคิด วันๆ เอาแต่เรียนพิเศษไม่เหมือนลูกเขาที่กิจกรรมมากมายทั้งตีกอล์ฟ สควอช ไปต่างประเทศ ฯลฯ แถมโรงเรียนธรรมดาเรียนไปก็ต้องไปเจอการแข่งขันสูงๆ ต้องไปแห่สอบเข้ามหาวิทยาลัย แถมโลกแคบเพราะได้เรียนแต่ในประเทศ ฯลฯ
ข้อเสียเหล่านี้ผมก็รู้แล้วเหมือนกัน แต่ทางเลือกคนเรามีไม่เหมือนกันนี่ครับ...
ผู้ปกครองโรงเรียนอินเตอร์หลายๆ คนก็น่ารักครับ คุยแล้วเข้าใจว่าฐานะแต่ละคนไม่เท่ากัน และทางเลือกของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่กับผู้ปกครองรุ่นใหม่หลายคนที่ชอบเปรียบเทียบแบบที่ว่ามานี้รู้สึกจะมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนผมเลี่ยงที่จะไม่คุยเรื่องลูกแล้วในงานสังคม
บางงานที่พาลูกไปด้วยก็พยายามคะยั้นคะยอให้ลูกเราคุยกับลูกเขาเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่อ...?
ผมรู้ว่าทางเลือกของลูกผมในอนาคตของไม่กว้างเท่าลูกของเขา แต่มันก็เป็นข้อจำกัดที่ตัวผมและคนไทยส่วนมากรับรู้ดีและต้องยอมรับมัน ทำให้เราต้องขวนขวายหาทางพัฒนาลูกเพิ่มเติม ทั้งการเรียนภาษานอกหลักสูตร ใครที่ลูกเก่งหน่อยก็หาทางสอบชิงทุน
ที่แน่ๆ เราก็คงต้องพยายามให้มากที่สุดเพื่ออนาคตของลูกเรา แม้จะต้องเหนื่อยกว่า แต่ก็เป็นหน้าที่ที่เราเต็มใจทำ จริงไหมครับ...